ผมเป็นอีกคนหนึ่งที่ซื้อรถกระบะ แล้วมาทำ รถกระบะรับจ้าง ทำเป็น รถรับจ้างขนของ แต่ตอนแรกไม่ได้ต้องการที่อยากจะเอาไปทำอะไรในตอนแรก คือต้องการซื้อมาเพียงแค่อยากจะเอามาขับ และ ขายของเล็กๆน้อยๆ เช่น เปิดท้ายขายของเป็น foodtruck แต่ด้วยสถานการณ์ในตอนนี้ต้องบอกว่าเศรษฐกิจของเราไม่ค่อยสู้ดีนัก งานที่เราเคยทำงานอยู่ก็ไม่สามารถไปต่อได้ จึงทำให้เราต้องกลับออกมาอยู่บ้านนอกที่ต่างจังหวัด แต่ด้วยที่ว่ารถที่ยังมีค่างวด ซึ่งเป็น รถกระบะขนของตอนเดียว จึงทำให้ผมต้องมีความคิดที่ว่าจะทำอย่างไรเพื่อที่เราจะอยู่รอดและไปรอดรถไม่โดนยึด ก็ต้องมาหาช่องทางที่จะทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้นมาซึ่ง สิ่งที่สามารถ จะหารายได้ให้กับผมได้นั่นก็คือรถกระบะคันนี้ ซึ่งผมจะทำอย่างไรเพื่อที่จะให้ได้เงินมาเพื่อจ่ายค่างวด ซึ่งผมก็มองอยู่ 2 อย่างนั้นก็คือ
- ทำเป็น Food truck หรือเปิดท้ายขายของ ซื้อของมาขายแล้ววิ่ง ขายของเช่น ของกิน ผัก ขายไข่ ขายสินค้าจำเป็น วิ่งไปตามหมู่บ้าน
- ทำเป็น รถกระบะรับจ้าง หมายถึงรับจ้างขนของขนย้ายทั่วไป ไม่ว่าจะเป็น ขนย้ายหอ ย้ายห้องพัก ขนย้ายคอนโด ขนย้ายบ้าน รับจ้างขนของทั่วไป วิ่งไปทั่วไทย
จากทั้ง 2 เหตุผลที่ผมนั่งนึกคิดอยู่ว่าจะทำอะไรดี ก็เลยมาวิเคราะห์พิจารณาดูว่าแบบไหนจะสามารถ พอที่จะทำให้เรามีรายได้ เข้ามาจ่ายค่างวดรถและรายได้มาใช้จ่ายในครอบครัว ผมก็เลยเล็งมาที่ การมาให้บริการ รถรับจ้างขนของ ซึ่งผมไม่รู้หรอกว่าจะสามารถอยู่รอดได้หรือไม่เพราะว่า เป็นอาชีพที่เรายังไม่เคยทำ และเราจะเอารถไปจอดที่ไหนจะหาลูกค้าได้อย่างไร
ทำไมผมถึงไม่เลือกที่จะ เปิดท้ายขายของทำ Food Truck นั่นก็เป็นเพราะว่า อาหาร หรือ ผัก ผลไม้ ถ้าหากเราขายไม่หมดในแต่ละวัน อาจจะเน่าเสียซึ่งนั่นทำให้ต้นทุนที่เรามีน้อยอยู่แล้ว ทำให้ขาดทุนมากขึ้นไปอีก ด้วยสถานการณ์ covid 19 ที่เกิดขึ้นทำให้คนออกมาจับจ่ายซื้อของน้อยลง ทำให้ผมมองว่าสิ่งนี้ถือว่าเป็นความเสี่ยงมากพอสมควร จึงคิดและตัดสินใจดูว่าการ ใช้ รถกระบะรับจ้างขนของ พวกอาหารหรือเปิดท้ายขายของนั้นอาจจะไม่เหมาะสมในช่วงเวลานี้
ถ้าหากผมจะใช้รถกระบะของผม ไปทำเป็น รถกระบะรับจ้าง จะไปรอดหรือไม่นี่ก็เป็นสิ่งที่ผมต้องคิดหนักพอสมควรเพราะว่า ในปัจจุบันนี้มี รถกระบะรับจ้าง ที่ทำในลักษณะเดียวกันนี้จำนวนมาก เราต้องมานั่งคิดก่อนว่า สิ่งที่เราจะวางแผนนั้น ต้องทำยังไงบ้าง
- จะหาลูกค้าอย่างไร
- จะจอดรถไว้ที่ไหนเพื่อให้ลูกค้าเห็นเรา
- จะตั้งราคาขนย้ายของอย่างไร เพื่อให้เราคุ้มทุนและมีกำไรพอที่จะจ่ายค่างวดรถ
- รถกระบะขนของเป็นที่ต้องการของ ผู้ใช้บริการมากน้อยขนาดไหน
- รถรับจ้างของเราหากราคาน้ำมันปรับขึ้น เราจะต้องทำอย่างไร
- รถขนของที่เรามี เวลาขนย้ายของต้องจ้างคนยกไปด้วยหรือไม่
- เราต้องเปิดเว็บไซต์ หรือ เฟสบุ๊ค ด้วยหรือไม่
- รถรับจ้างขนของ ในปัจจุบันมีมากแค่ไหน
- การแข่งขันทางการตลาด การบริการ การเสนอราคา สูงมั้ย
- เราจะทำอย่างไรให้เขากลับมาใช้บริการขนย้ายของซ้ำ
ก็เป็นสิ่งที่ผมต้องหาคำตอบมากขึ้น ก่อนที่จะเริ่มลุยเป็นผู้ให้บริการ รถรับจ้าง แบบเต็มตัว เพราะว่าตอนนี้หากเราไม่ทำอะไรเลย ผมก็ยากที่จะอยู่ได้และอาจจะต้องเสียรถที่ผม ซื้อมาด้วยน้ำพักน้ำแรง ดังนั้นผมเชื่อว่าไม่มีใครต้องปล่อยให้ตัวเองอดตายและก็ต้องสู้ ต่อสู้กับสิ่งที่เราจะได้มีประสบการณ์ใหม่ๆ ต้องไปเจออะไรใหม่ๆ และผมจะต้องทำมันให้ได้ ดังนั้น เมื่อผมตัดสินใจเลือกที่จะเป็นผู้ให้บริการรถรับจ้างแล้ว ผมก็มีการเตรียมตัวด้วยการ ใส่ตู้ในการขนย้ายของ โชคดีที่ว่าผมเป็นรถกระบะตอนเดียวมาแต่แรก อาจจะด้วยความบังเอิญหรือความโชคดี เพราะรถกระบะตอนเดียวจะมีราคาถูกกว่ารถแคป เงินเรามีเท่านั้นเราจึงสามารถซื้อได้แค่รุ่นดังกล่าว จึงทำให้ผมได้ รถกระบะตอนรับจ้างขนของตอนเดียว คันนี้มา โชคดีอันที่ 2 นั่นคือ ผู้ใช้บริการรถรับจ้างส่วนใหญ่ที่ผมสอบถามมานั้น จะใช้เป็นรถตอนเดียวเพราะจะสามารถใส่ของได้ในปริมาณที่มากๆเช่นบางที เราไปเจองาน ขนย้ายหอ ย้ายห้องพัก ย้ายคอนโด ย้ายอพาร์ทเมนท์ ซึ่งบางทีอาจจะต้องมีของในปริมาณที่มากหรือแม้กระทั่ง ขนย้ายมอเตอร์ไซค์ จะต้องมีพื้นที่ในการ ใส่ของมากพอสมควร การที่มีรถกระบะตอนเดียวจะสามารถบรรทุกของได้หมดอย่างแน่นอน นี่คือความโชคดีอย่างหนึ่งซึ่งผมมองว่าจะเป็นอาชีพที่ผมจะสามารถเดินต่อไปได้ แต่ จะไปได้ดีหรือไม่นั้น ผม จะนำมาแชร์ให้ในบทความถัดไป ซึ่งผมหวังว่าทุกคนจะเป็นกำลังใจให้ หากใครที่ต้องการอยากจะใช้บริการ รถกระบะรับจ้าง ของผมสามารถ โทรมาปรึกษาหรือสอบถาม ข้อมูลในเรื่องของราคากับผมได้ตลอด ผมพร้อมที่จะยินดีให้บริการ รถกระบะรับจ้าง แก่ทุกท่านต้องขอโอกาส ลูกค้าหรือผู้ใช้บริการขนย้ายของทุกท่าน ลองมาใช้ รถกระบะรับจ้างมือใหม่ ที่เริ่มลุยธุรกิจอย่างจริงจัง ผมหวังว่า ผมจะได้รับการตอบรับ ที่ดีและสู้ต่อไปกับเส้นทางรถรับจ้างขนของต่อไป